Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สารพัดวิธีช่วยให้เรานอนหลับง่ายขึ้น

สารพัดวิธีช่วยให้เรานอนหลับง่ายขึ้น 
หลายคนมีอาการนอนไม่หลับ ถ้าใครที่เคยเป็นหรือเป็นอยู่คงจะรู้ว่าทรมานขนาดไหน สมองง่วงงุน ตาก็ปิด แต่ก็ยังนอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิท ฝันพิสดารไปเรื่อยเปื่อยตื่นมาอีกที อ้าว เช้าแล้วเหรอ ทำไมรู้สึกเหมือนไม่ได้นอนนอกจากร่างกายจะอ่อนเพลีย สุขภาพย่ำแย่แล้วยังส่งผลให้ผิวพรรณไม่สดใสเปล่งปลั่ง บางครั้งสิวยังถามหาอีกต่างหาก

หลากหลายวิธีที่ทำให้คุณนอนหลับง่าย
1. ลาเวนเดอร์
ใช้น้ำมันหอมระเหยของยี่ห้อไหนก็ได้หยดใส่หมอน นอนไปดมไปจนหลับปุ๋ย แต่ข้อเสียคือทำให้หมอนด่างเป็นดวงๆ ถ้าใครไม่ชอบ ให้ใช้เตาเบิร์นเนอร์ หรืออีกวิธีที่ง่ายและประหยัด เอาน้ำร้อนจัดๆ ใส่ชามสวยๆ หยดน้ำมันหอมระเหยลงไป กลิ่นก็จะกระจายทั่วห้องเหมือนกัน หรือถ้าไม่ชอบน้ำมันหอมระเหย ยังมีผลิตภัณฑ์ลาเวนเดอร์อีกหลายรูปแบบ เช่น เทียนหอม (ดูยี่ห้อที่จุดแล้วไม่ก่อคาร์บอนไดออกไซด์) หมอนกลิ่นลาเวนเดอร์ อันนี้มาแบบยิ่งใหญ่ แต่สะดวกดี พลิกซ้ายตะแคงขวาคว่ำหน้าก็ยังได้กลิ่น หรือจะเป็นครีม สบู่ โลชั่น สเปรย์ปรับอากาศ ฯลฯ แต่วิธีนี้ใช้ไปนานๆ ทุกคืน สมองอาจจะชินกับกลิ่นจนใช้ไม่ได้ผลอีกก็เป็นได้
2. ผ้าปิดตาและที่อุดหู
คนนอนหลับยากส่วนใหญ่มักจะตื่นง่ายเป็นพิเศษ ถ้าใครที่แสงแยงตานิดก็นอนไม่ได้ หนวกหูนิดก็นอนไม่หลับ ไปซื้อมาเลยค่ะ ที่ปิดตาและที่อุดหู  พยายามอย่าเลือกผ้าปิดตาแบบผ้าใยสังเคราะห์ ซึ่งมันจะดูดติดหน้าจนเรารำคาญ
3. อ่านหนังสือ
บางคนพอบอกว่าอ่านหนังสือแล้วนอนหลับ ก็ไปเอานวนิยายผจญภัย หรือเรื่องผีมาอ่าน ยิ่งนอนหลับยากกว่าเดิมอีก เพราะสมองหมุนติ้วๆ อะดรีนาลินหลั่งปรู๊ดๆๆๆๆๆ ไม่ก็ขวัญบินหนีหายหมด ถ้าหลับลง คืนนั้นมิแคล้วว่าต้องฝันประหลาดพิสดารแน่นอน ถ้าจะให้วิธีนี้ใช้ได้ผล ต้องรู้จักนิสัยการอ่านของตัวเองด้วย เช่น บางคนไม่ชอบหนังสือชีวประวัติ อ่านแล้วง่วง ชีวิตนี้ไม่เคยอ่านจบ เย็นนี้ไปซื้อมาเลย เอาแบบที่ร่ำลือกันแล้วว่า เยอะหน้า อ่านยาก อ่านไม่เกิน 10 หน้า รับรองว่าจะเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์ บางคนแพ้หนังสือธรรมะ อ่านการฝึกจิตไปได้ 10 หน้าก็ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ ก็จงเอาหนังสือเล่มนี้วางไว้หัวเตียงก่อนนอนซะ ส่วนคนที่ชอบอ่านหนังสือ อะไรก็อ่านได้หมด ขอแนะนำหนังสือเบาๆ การ์ตูนหน่อยๆ เพลินเพลิน นอนหลับฝันดี
4. ชาคาโมมายล์
เป็นชาที่หาซื้อได้ทั่วไปค่ะ  ว่ากันว่ามีคุณสมบัติช่วยให้ผ่อนคลายและนอนหลับได้ มีข้อแนะนำว่า ถ้าอยากให้ผลดีที่สุดคือ เลือกชาแบบที่ไร้คาเฟอีนและดื่มแบบเพียวๆ เลยจะดีที่สุด แต่ถ้าไม่ชอบดื่มชาเท่าไหร่ อยากผสมอะไรอื่นๆ เพื่อให้รสชาติดีขึ้น แนะนำว่าควรจะเป็นน้ำผึ้ง เพราะมีสารที่ช่วยให้นอนหลับง่ายเช่นกัน ในขณะที่น้ำตาลธรรมดาหรือน้ำตาลเทียม จะทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่หลับไม่นอนกันอีกคืน
5. สวดมนต์ นั่งสมาธิ 
การสวดมนต์กับนั่งสมาธิเป็นขั้นตอนที่พึงปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนเลยนะ ถ้าคุณนับถือศาสนาอื่นๆ ก็สามารถสวดมนต์ก่อนนอนได้ค่ะ
6. กินกินกิน
เข้าตำราหนังท้องตึงหนังตาหย่อน แต่ถ้าจะใช้วิธีนี้ ควรเลือกเวลาและอาหารให้เหมาะสม บางคนกระเพาะไม่ย่อย แต่ไปซัดก๋วยเตี๋ยวเนื้อแล้วนอนปุ๊บ คงจะนอนไม่หลับไปอีกคืนแน่ๆ  เพราะฉะนั้น อาหารที่รับประทานควรเป็นอาหารที่ถูกโฉลกกับร่างกายของคุณ และอย่ากินตอนใกล้เข้านอน ควรเว้นไว้อย่างน้อยสัก 4 ชั่วโมงกำลังดี
7. ฟังเพลงคลาสสิกหรือคลื่นเสียง
เหมาะสำหรับคนที่ฟังเพลงแบบไม่มีเนื้อร้องแล้วง่วง หรือถ้าเป็นคนที่ฟังเพลงแบบไหนก็ตื่นตัวไปหมด แนะนำคลื่นเสียงที่ช่วยทำให้นอนหลับ มีขายตามร้านซีดีชั้นนำและโหลดแบบเสียเงินตามเว็บไซต์ค่ะ
ถ้าใครที่ทำไป 7 วิธีแล้ว ก็ยังนอนไม่หลับ อย่าริกินยานอนหลับเองเด็ดขาด เพราะคุณอาจติดยานอนหลับ จนนอนไม่ได้ถ้าไม่ได้กินยา
ขอแนะนำวิธีสุดท้าย นั่นคือ
8. ไปปรึกษาจิตแพทย์
หลายคนอาจจะมองว่าคนไปปรึกษาจิตแพทย์เป็นเรื่องประหลาด เป็นโรคจิตบ้างล่ะ ขอบอกว่า ไม่ใช่เลย เดี๋ยวนี้คนยอมรับการรักษาอาการต่างๆ ด้วยจิตแพทย์มากขึ้นรวมทั้งการนอนหลับด้วย มีหลายคนที่ทำงานหนักเกินไป ไม่หลับไม่นอนจนนอนไม่หลับ เพราะสารเคมีในสมองเสียสมดุลไปหมด ก็ต้องมาบำบัด ทั้งด้วยการพูดคุย และการใช้ยา (ที่ไม่ใช่ยานอนหลับและยาคลายเครียด) แต่หมายเหตุ ก่อนไปหาจิตแพทย์ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมเงิน เพราะค่ารักษาแพงใช้ได้ และต้องใช้เวลารักษาตัวสักพักแล้วแต่อาการค่ะ แต่ถ้าปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอ และพยายามดูแลตัวเอง ส่วนใหญ่จะไม่กลับมาเป็นอีก ขอให้ทุกท่านนอนหลับฝันดีมีความสุขทุกค่ำคืน 

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อารมณ์หลากหลายของคนแต่ละกรุ๊ปเลือด


คนที่มีกรุ๊ปเลือดต่างกัน A, B, AB และO เวลาเจอกับสถานการณ์ต่างๆ ที่มากระทบอารมณ์ความรู้สึก เค้าจะมีวิธีการจัดการอย่างไร หรือมีความรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ รู้เอาไว้ จะได้รับมือได้อย่างถูกต้อง ทั้งความรู้สึกของตัวคุณเองและคนที่คุณรัก ทั้งเพื่อนหรือใครๆ ก็ได้ที่อยู่รอบตัวคุณ
- ยามที่พูดคุยในหมู่เพื่อนๆ
กรุ๊ป A
คุณเม้าท์เก่งมากในหมู่เพื่อนๆ เรียกว่าเป็นจุดศูนย์กลางในการพูดคุยเลยทีเดียว เวลาจับกลุ่มคุยกัยทีพูดกันได้เป็นชั่วโมงเชียวล่ะ
กรุ๊ป B
คุณเป็นคนสนุกสนาน เวลาพูดชอบออกท่าทางประกอบ ทำให้เพื่อนๆ เ ข้าใจและคล้อยตามไปด้วย ดึงดูดความสนใจผู้คนได้ดี
กรุ๊ป AB
คุณชอบเป็นฝ่ายฟังเสียมากกว่า ทุกคนจึงชอบพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ ให้ฟังอยู่เรื่อย แต่บางทีการที่วิจารณ์คนอื่นตรงไปตรงมาก็อาจทำให้คนไม่ชอบคุณบ้างเหมือนกัน
กรุ๊ป O
ชอบเป็นจุดเด่นเชียวนะคุณ ถ้ามีคนสนใจล่ะก็ถึงไหนถึงกันสิ ถ้าใครทำเป็นว่าไม่สนใจ ก็จะฉุนขึ้นมาทันที

- เมื่อทะเลาะกับชาวบ้าน
กรุ๊ป A
คุณเป็นคนเยือกเย็น สุขุม ไม่ชอบเถียงใครให้วุ่นวาย เพราะฉะนั้นเวลาที่คุณไม่พอใจใครก็จะใช้สายตาปราม อย่างมากก็จะตำหนินิดๆ หน่อยๆ แค่นั้นเอง
กรุ๊ป B
ถ้าคุณโมโหขึ้นมาล่ะก็ ไม่เห็นแก่หน้าใครหรอก ใครทะเลาะกับคุณนี่ถือว่าซวยจริงๆ ว่างั้นเถอะ
กรุ๊ป AB
คุณไม่ชอบเรื่องทะเลาะนักหรอก ส่วนมากถ้ามีเรื่องกันก็ไม่ใช่ คุณที่เป็นฝ่ายก่อเรื่องก่อน ความใจเย็นของคุณจะทำให้ระงับสติอารมณ์ได้มากเมื่อต้องวีนกับใคร
กรุ๊ป O
บู๊มากเลยนะคุณนี่ ต่อให้สู้กับใครก็ไม่ถอย วีนกับเขาได้ทุกรูปแบบ ถ้าเถียงกับใครล่ะก็ ไม่มียอมง่ายๆ หรอก นอกจากจะแพ้ชนะกันไปข้างหนึ่ง

- เรื่องราวของความรัก
กรุ๊ป A
คุณเป็นคนขี้ขลาด ไม่กล้าที่จะแสดงให้เขารู้ว่าคุณมีใจให้ ดังนั้นคนกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่จะไม่สามารถสมหวังในความรักได้อย่างรวดเร็ว เพราะมักต้องใช้เวลาพอสมควรในการตัดสินใจ
กรุ๊ป B
หากคุณสนใจใคร คุณก็มักคิดหาวิธีในการเชื่อมสัมพันธ์กับเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งการไม่คำนึงถึงสภาพการณ์จะทำให้เกิดภาพพจน์ที่ไม่ดีในสายตาคนอื่น
กรุ๊ป AB
คุณมักทำให้เขาเป็นฝ่ายเข้ามาหาคุณเองมากกว่าคุณจะเป็นฝ่ายติดต่อกับเขาก่อน คุณจึงมักถูกตามตื๊อขอความรักจากชายหนุ่มมากมาย
กรุ๊ป O
คุณเป็นคนมีนิสัยตรงไปตรงมา รักใครแล้วคุณก็จะแสดงออกเปิดเผยกับเขาตรงๆ เชื่อมสัมพันธ์กับเขาทันที เป็นความรักที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่บางครั้ง ก็ควรคำนึงถึงจิตใจเขาด้วยว่าเขาคิดกับคุณในแบบที่คุณคิดหรือเปล่า

- เวลาเฮิร์ท อกหัก เสียใจ
กรุ๊ป A
หากมีเรื่องที่ทำให้คุณต้องเสียใจ คุณก็จะเฝ้าครุ่นคิดถึงสาเหตุที่ทำให้คุณเสียใจ ตลอดเวลา และคุณจะไม่สามารถทำใจได้จนกว่าคุณจะยอมรับในเรื่องนั้น คุณเป็นคนที่ลืมอะไรได้ยาก เพราะนิสัยของคุณเป็นคนคิดมาก
กรุ๊ป B
คุณเป็นคนที่มีอารมณ์ร้อน หากคิดจะทำอะไรแล้วก็จะทำทันทีโดยไม่ยั้งคิด แต่เมื่อคิดได้ก็มักสายเกินแก้จนต้องเสียใจภายหลัง และเป็นเรื่องที่จะทำให้คุณรู้สึกเสียใจไปตลอด
กรุ๊ป AB
ถึงแม้เป็นเรื่องที่ทำให้คุณต้องเสียใจ แต่คุณก็จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นกลุ่มที่มักไม่ค่อยแสดงอาการเสียใจออกมาให้เห็น
กรุ๊ป O
คุณเป็นคนไม่ชอบครุ่นคิดในเรื่องเล็ก ๆน้อยๆ เรื่องที่ทำให้เสียใจ คุณก็สามารถทำใจได้อย่างรวดเร็วและลืมไปได้ในเวลารวดเร็ว

- ความขยันเรื่องเรียน
กรุ๊ป A
คุณเป็นคนรอบคอบจริงจังในเวลาทบทวนตำราเรียน คุณจะนั่งทบทวนจนถึงกับลืมเวลาไปเลย ดังนั้นคุณควรแบ่งเวลาให้ถูกต้องด้วย
กรุ๊ป B
ความขยันมักขึ้นกับอารมณ์ของคุณ เพราะคุณมักมีนิสัยที่เปลี่ยนใจง่าย ดังนั้นผลการสอบที่ออกมามักขึ้นกับอารมณ์ของคุณตอนช่วงที่ดูตำราก่อนสอบเสมอ
กรุ๊ป AB
คุณชอบเตรียมวางแผนในเรื่องต่างไว้ล่วงหน้าเสมอ แต่บางครั้งก็ไม่สามารถทำตามแผนการที่วางแผนไว้ได้ หากยึดมั่นตามแผนการเกินไปกลับจะเป็นผลเสียมากกว่า ดังนั้นคุณไม่ควรหักโหมจนเกินไปทำเท่าที่คุณสามารถทำได้
กรุ๊ป O
ในเรื่องที่คุณไม่ชอบ คุณจะรอจนกว่าใกล้ๆ เวลาแล้วจึงค่อยทำ เช่นการสอบ คุณมักรอจนกว่าใกล้สอบแล้วจึงค่อยอ่าน โดยเฉพาะวิชาที่คุณไม่ชอบ แต่หากคุณมีความพยายามคุณก็สามารถทำได้ดีทีเดียว

- ถ้าอยากให้เขาดีใจ
กรุ๊ป A
บอกเขาด้วยการแสดงออกและกิริยาเว่อร์ สิ่งที่จะทำให้คนกรุ๊ป A ดีใจก็คือคุณนั่นเอง บอกให้เขารู้ว่าคุณมีความสุขมากเมื่ออยู่กับเขาด้วยการแสดงออกทางสีหน้า และท่าทางเว่อร์ๆ ใช่แล้วต้องสอพลอเขาหน่อยล่ะ
กรุ๊ป B
ต้องการคนคุ้มครอง คนกรุ๊ปเลือดนี้ เป็นพวกที่ชอบไปงานเทศกาล ถ้าชวนเขาไปงานวันเกิด ไปเที่ยวปิกนิก ทำกิจกรรมล่ะก็จะตื่นเต้นยินดี๊ ยินดี นอกจากนี้ก็ยังมีนิสัยเด็กๆ อยากได้คนมาปกป้องดูแลและเป็นที่ปรึกษา
กรุ๊ป AB
ชอบลูกยอ คนกรุ๊ป AB จะดีใจมากเลยถ้าคู่สนทนาตั้งใจฟังเรื่องที่เขากำลังพูดอยู่ และพูดตอบรับว่า "จริงด้วย!" "เข้าใจแล้ว" ก็ชมเขาเกี่ยวกับเสื้อผ้าหรือเสื้อประดับ
กรุ๊ป O
ชอบกินชอบคุย คนกรุ๊ป O ชอบกิน ชอบคุยมากที่สุด เชี่ยวชาญทางด้านการชิมเชียวล่ะ น้องๆ เชลล์ชวนชิมมาเอง เขาคงดีใจนะถ้าคุณคุยกับเขาเกี่ยวกับร้านอาหารที่มีของกินอร่อย หรือคุยเรื่องสนุกๆ และเป็นคนแพ้ของขวัญด้วยล่ะ

- วิธีปลอบใจเวลาเศร้า
กรุ๊ป A
สิ่งสำคัญสำหรับคนกรุ๊ป A ที่แสนจะเงียบขรึมก็คือ คำพูดปลอบใจอันหวานหู เมื่อเขารู้สึกขมขื่นคุณควรจะอยู่ใกล้ๆ เขาตลอดเวลา หรือโทรศัพท์ไปหาก็โอเคนะ
กรุ๊ป B
สำหรับคนกรุ๊ป B น่ะไม่ต้องไปปลอบใจเขาหรอก ไม่จำเป็นเลย ดีไม่ดีจะไม่ชอบใจเอาเสียด้วยซ้ำ ถ้าคุณใช้วิธีซื้อขนมหรือของขวัญให้เขา จะได้ผลกว่านะ
กรุ๊ป AB
มันเป็นเรื่องยากที่จะจับความรู้สึกของคนกรุ๊ป AB เวลาที่เขาเศร้า ก็ชอบที่จะเศร้าเงียบๆ คนเดียว ยิ้มให้เขา แค่นั้นก็พอ แล้วก็ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว
กรุ๊ป O
ดูภายนอกแล้วจะเป็นคนเข้มแข็ง แต่ในความเป็นจริง คนกรุ๊ป O จะเป็นคนที่อ่อนไหวง่าย เขารอคอยคนที่จะพูดว่า"ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอดีจ้ะ" ฟังเมื่อเขาระบายความขมขื่น กุมมือเขาไว้ด้วยก็ดี เขาจะได้รู้สึกอบอุ่น

- ทำอย่างไรให้เขาหายโกรธ
กรุ๊ป A
ถ้าโกรธขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก้อหายยากเลยล่ะ นี่แหละแบบฉบับความโกรธของคนกรุ๊ปนี้ เพราะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น อย่าพยายามยับยั้งเขา แต่ปล่อยให้เวลาช่วยคลายอารมณ์
กรุ๊ป B
โกรธได้ไม่นาน อย่าไปสนใจเลยถ้าคนกรุ๊ป B เกิดโมโหโทโสขึ้นมา ถ้าขืนไปใส่ใจมาก จะยิ่งไปกันใหญ่ พยายามทำตามแบบเขาคือลืมๆ ไปซะ ยิ่งลืมเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
กรุ๊ป AB
คนๆ นี้จัดการยาก เป็นคนชอบความมีเหตุผลแต่ค่อนข้างเข้าข้างตัวเอง ที่เขาโกรธถึงขนาดนั้นแสดงว่าเขามีเหตุผลของเขา ไม่ต้องจับเข่าคุยกันหรอก แต่ยอมก้มหัวขอโทษเขาเท่านี้ ความมีน้ำโหก็จะคลายลง
กรุ๊ป O
เป็นคนน่ากลัวเมื่อถูกทำให้โกรธ แต่ถ้ารู้ว่าสาเหตุคืออะไรก็จะหายทันที การอธิบายอย่างมีเหตุผลเป็นจุดสำคัญของคนกรุ๊ปเลือดนี้


- แบบไหนที่เขาจะสนุกสุดเหวี่ยง

กรุ๊ป A
สิ่งที่จะทำให้คนกรุ๊ป A ที่ชอบโหวกเหวกสนุกได้ก็คือ สรรหาคนที่เขาชอบรวมทีมกรี๊ดกร๊าดไปตามเรื่อง แต่ต้องเป็นทีมที่มีคนร้อนๆ นะ
กรุ๊ป B
เป็นคนที่มีพลังจะสนุกสุดเหวี่ยงเมื่อได้เคลื่อนไหวร่างกาย ชอบยุ่งกับการออกไปข้างนอก เล่นกีฬา มากกว่านั่งเล่นอยู่กับบ้านเฉยๆ
กรุ๊ป AB
ไม่ค่อยสนุกกับคนอื่นเขากหรอกแถมยังไม่ชอบกรี๊ดกร๊าดวุ่นวายกับคนอื่น แต่อย่าให้ได้จับไมค์เชียวนะ เป็นร้องไม่หยุด ไล่ไม่เลิกเลยทีเดียว
กรุ๊ป O
จะรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ตัวเองสนุกได้ โน่นคือความสนุกสนานที่ได้พูดคุย ทำให้คนอื่นร่าเริงแม้ว่าตอนนั้นสถานการณ์จะไม่ใคร่ดี คุณก็พูดคุยจ๊อกแจ๊กไปตามประสา.....
เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย musa

วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

การดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนกับเคล็ดลับ 7 วิธี

วันนี้..มีวิธีการง่ายๆในการดูแลสุขภาพให้ดีอย่างยั่งยืน.              
หลายคนที่ยังมีสุขภาพพลานามัยดี ยังอยู่ในวัยยังหนุ่มยังสาว หรือคิดว่ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้ว เวลาเกิดเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆคิดว่าอาจจะหายป่วยได้เอง ซึ่งความคิดนี้อาจไม่ถูกต้องนัก ในความเป็นจริงร่างกายของคนเราอาจจะไม่แสดงอาการผิดปกติในทันทีทันใด เพราะร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้วแต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ร่างกายคนเราก็จะอ่อนแอลงไปเรื่อยๆเพราะร่างกายคนเราจะสะสมสารพิษที่อยู่ใน ร่างกาย และแสดงอาการเมื่อร่างกายเราอ่อนแอ จะเห็นได้จากคนที่เจ็บป่วยส่วนใหญ่เป็นคนที่มีอายุมาก ดังนั้นถ้าคิดจะมีสุขภาพดีจึงควรดุแลสุขภาพตั้งแต่ตอนนี้จะได้ไม่มีโรคร้าย มากลํ้ากราย.   


วิธีการง่ายๆในการดูแลสุขภาพให้ดีอย่างยั่งยืนมีดังนี้

1.นอนให้เร็วขึ้น ตื่นเช้าให้มากขึ้น.
 การนอนให้เร็วขึ้นนั้นทําให้ร่างกายได้มีเวลาพักผ่อนแลช่วยปรับสมดุลให้ ร่างกายรวมถึงกําจัดของเสียออกจากร่างกาย หากการนอนไม่เพียงพอหรือนอนดึกร่างกายก็จะปรับให้มีอาการง่วงนอนในเวลาอื่น เพื่อทดแทนส่วนที่ขาดไป ดังนั้นอาจทําให้เราง่วงนอนในเวลาทํางานได้ซึ่งเป็นสิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง.     
                  
2.การทานอาหารเช้า.
บางคนนั้นจจะชินกับการไม่ทานอาหารเช้าซึ่งอาหารเช้านั้นถือว่าเป็นอาหารที่ สําคัญที่สุด      เป็นเวลาที่เราจะรับสารอาหารเพื่อนําไปใช้ในกิจกรรมต่างๆในวันใหม่ หลังจากที่เราหลับไปเป็นเวลานาน. อาหารเช้าของคนเราควรมีสารอหารให้ครบทั้ง5หมู่หรือถ้าไม่มีเวลากินอาหารเช้า จริงๆอาจจะกินขนมปังทานม แต่ไม่ควรกินอาหารสําเร็จรูปซึ่งไม่มีคุณค่าทางอาหาร.                      
     
3.ออกกําลังกายในตอนเช้า.    
แสงแดดยามเช้าไม่ได้ช่วยให้กระดูกแข็งแรงเท่านั้น แต่การออกกำลังกายกลางแดดในช่วงเวลาดังกล่าวยังช่วยให้ร่างกายผลิตสารเอนโดร ฟีน ซึ่งเป็นสารต่อต้านอาการซึมเศร้าตามธรรมชาติอีกด้วย.   
                                                 
4.กินผักให้มากขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดี.
การกินผักและผลไม้นั้นทําให้อายุยืนและทําให้ร่างกายได้รับวิตามินและใยอา หารซึ่งจําเป็นต่อร่างกาย ทําให้ระบบต่างๆสามารถทํางานได้เป็นปกติ.           
               
5.หมั่นขจัดสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย.
สาเหตุหนึ่งที่ทําให้คนเรานั้นเจ็บป่วยนั้นมาจากการสะสมสารพิษที่อยู่ในร่าง กาย ทําให้เกิดโรคต่างๆดังนั้นการขจัดสารพิษจึงจําเป็นต่อร่างกายเช่น การดีท้อกซึ่งกําลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน และได้รับผลตอบรับที่ดีรวมถึงปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่าวิธีการสวนทวาร.

6.หมั่นออกกําลังกาย.
ปัจจุบันการออกกําลังกายถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ยากโดยเฉพาะคนเมือง สาเหตหนึ่งอาจเป็นเพราะการเร่งรีบของเมืองใหญ่นั้นทําให้คนเล็งเห็นความ สําคัญของการออกกําลังกายน้อยลง การออกกําลังกายนั้นสามารถทําได้ง่ายๆที่บ้านครับ ความสะอาดบ้านก็ถือว่าเป็นการออกกําลังกาย การเดินลบันใดก็ถือว่าออกกําลังกาย.                                                                         

7.การสริมสร้างสุขภาพจิตให้ดี เมื่อสุขภาพจิตดี.
สุขภาพกายก็จะดีไปด้วย ดังนั้นควรเสริมสร้างสุขภาพจิตให้อยู่ในด้านบวกมากกว่าด้านลบทําใจให้สงบไม่ ฟุ้งซ่าน จะทําให้ร่างกายเบิกบานไปด้วย

เรียบเรียงข้อมูลเพิ่้มเติมโดย musa

รายการบล็อกของฉัน