Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ปล่อยใจให้ว่างกับ7กฎการใช้อารมณ์ในเวลางานและความเครียด



ความเครียด เป็นสภาวะจิตใจและร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นผลจากการที่บุคคลต้องปรับตัวต่อสิ่งกระตุ้นหรือสิ่งเร้าต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมที่กดดันหรือคุกคามให้เกิด ความทุกข์ ความไม่สบายใจ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และความเครียด     


ปัจจัยเกี่ยวกับสุขภาพและการเจ็บป่วย ทั้งรุนแรงและไม่รุนแรงทำให้เกิดความเครียดได้
บุคลิกภาพ ผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ชอบแข่งขัน เร่งรีบ ต้องการเอาชนะไม่อดทน จะมีความเครียดมาก
      ครอบครัว ความขัดแย้งในครอบครัว ปัญหาเรื่องลูก ความยุ่งยาก เรื่องเพศ ฯลฯ
      การงาน ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน ภาระงาน ความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานระดับต่างๆ ค่าตอบแทน ฯลฯ
      สิ่งแวดล้อม อากาศ แสง เสียง ฝุ่น ความร้อน ฯลฯ


ผลกระทบของอารมณ์และความเครียด
      1. ผลกระทบต่อตนเอง
            - ทางกาย อาทิ ปวดศีรษะ ปวดศีรษะข้างเดียว หัวใจเต้นแรงและเร็ว มือเท้าเย็น ท้องอืด คลื่นไส้หรือปั่นป่วนในท้อง ความดันโลหิตสูง หอบหืด โรคหัวใจ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ
            - ทางอารมณ์ อาทิ หงุดหงิด โกรธง่าย วิตกกังวล ซึมเศร้า ฯลฯ
            - ทางด้านความคิด อาทิ หดหู่ ไม่มีสมาธิ ตัดสินใจลำบาก หลงลืมง่าย มีความคิดทางลบมากกว่าทางบวก เห็นตัวเองไม่มีคุณค่า สิ้นหวัง ฯลฯ
            - ทางพฤติกรรม อาทิ ดื่มจัดมากเกินไป สูบบุหรี่จัด ไม่เจริญอาหาร ก้าวร้าว นอนไม่เต็มที่ ฯลฯ
      2. ผลกระทบของความเครียดต่อครอบครัว
      ครอบครัวขาดการสื่อสารที่ดีซึ่งกันและกันไม่ยอมรับและไม่มีความเข้าใจกันเกิดความขัดแย้งทะเลาะวิวาท เกิดการหย่าร้าง หรือแยกกันอยู่ระหว่างสามีภรรยา ลูกไม่ได้รับความรักความอบอุ่นและความเอาใจใส่จากพ่อแม่


7 กฎของการใช้อารมณ์ในเวลางาน
บทความนี้ให้แง่คิดด้านการทำงานได้ดีมาก
เป็นเรื่องของเกร็ดที่น่าสนใจในการใช้อารมณ์ในเวลางานมาฝากกัน เผื่อใครสนใจจะได้ลองเอาไปใช้ดูนะคะ เพราะอารมณ์เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อการทำงาน

1. คุณคือโลโก้ บริษัท อย่าวู่วามกฎข้อแรกที่เรากำลังจะพูดถึง คือ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร คุณต้องระงับอารมณ์ โดยเฉพาะอารมณ์โกรธของคุณให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อถูกท้าทายระหว่างการทำงานนอกสำนักงานของคุณเอง



2.ความขัดแย้งทำลายบรรยากาศการทำงาน และไม่ทำให้คุณมีความสุข
แม้จะไม่ลงรอยกันหรือเกลียดหน้ากันมากแค่ไหน การมีช่องว่างระหว่างกัน ทำตัวออกห่าง โดยเลือกที่จะไม่อยู่ใกล้ คือ หนทางเดียวที่จะทำให้คุณทำงานร่วมกับคู่อริได้อย่างมีความสุขที่สุด โดยที่ไม่ถูกจับจ้องหรือเพ่งเล็ง

3.การประเมินอารมณ์เป็นเรื่องที่ทำได้ เมื่อเหตุการณ์จบลง และแน่ใจว่าได้แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดหรือสิ่งที่คนอื่นเข้าใจผิดกับตัวคุณให้ผ่านพ้นไปแล้ว คุณน่าจะประเมินเหตุการณ์เหล่านั้นอย่างถี่ถ้วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหาคำตอบให้กับตัวเองว่า สาเหตุของความโกรธหรือความอ่อนไหวของคุณคืออะไร (คน ระบบ หรือสถานการณ์) นอกเหนือไปจากนั้น คุณจะต้องรู้ว่าคุณมีดีกรีหรือระดับความโกรธมากแค่ไหน

4.สร้างเงื่อนไขให้กับตัวเองเสียใหม่เมื่อทราบแล้วว่าคุณ "Sensitive" หรือโกรธได้ง่ายๆ กับเรื่องหนึ่งเรื่องใด สิ่งที่ทำได้ คือ ใช้บทเรียนของคุณมาแก้ปัญหานั้นๆ เช่น ถ้าคุณต้องโมโหจนควันออกหูทุกครั้งกับคนคนเดิมที่ต้องประสานงาน ทางออกที่ดีคือพูดกันให้น้อยที่สุดแล้วใช้การติดต่อทางอีเมล์ช่วยในการประสานงาน หรือเมื่อถูกมองในแง่ลบ คุณจะต้องสงบสติอารมณ์แล้วแสดงทรรศนะด้วยความสุภาพ ชี้แจงว่าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด แทนการใช้อารมณ์โดยปราศจากการเรียบเรียง


5.ผิดแล้วผิดอีกไม่ได้หลังจากที่โดนลงอาญาจากเพื่อนฝูงและเจ้านาย แม้ว่าจะเป็นฝ่ายถูกในเรื่องของเหตุผล คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ ดังนั้น สิ่งที่คุณควรทำคือการยับยั้งชั่งใจ และวางตัวเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีของทุกคนในโหมดที่เคยเป็น

6.หลบไปตั้งหลักหรือทำสมาธิในที่ที่ไม่มีใครเห็นบางครั้งการจัดการกับอารมณ์ก็หนักหนาสาหัสสุดๆ สำหรับใครบางคน อย่างไรก็ตาม การเดินหนีปัญหาชั่วคราวด้วยการออกไปหามุมสงบเพื่อนั่งสมาธิ หรือปล่อยใจให้ว่างก็เป็นทางออกที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นห้องโล่งว่าง ร้านกาแฟ หรือขับรถออกไปกินลมสักพัก เมื่อสมองปลอดโปร่งแล้วเรื่องทุกอย่างก็คลี่คลาย

7. บอกกับทุกคนว่า "โอเค ยังไหว"โดยธรรมชาติของมนุษย์ อารมณ์ต่างๆ เป็นสิ่งที่มนุษย์ด้วยกันสามารถสัมผัสและเข้าใจได้ ไม่ว่าคุณจะพยายามปกปิดแค่ไหน ยกเว้นก็แต่ผู้ร้ายปากแข็งและนักแสดง ไม่ใช่เพียงแค่อารมณ์โกรธหลายครั้งที่เหนื่อยจากการทำงานหรือต้องเผชิญกับปัญหาส่วนตัว อารมณ์เหล่านี้จะถูกสะท้อนออกมาให้เห็นจากแววตาและสีหน้าของคุณโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ 

สิ่งที่คุณควรทำคือ บอกทุกคนว่ายังไหว เพื่อสร้างกำลังใจให้กับทุกคนในการทำงาน และไม่เปิดช่องว่างให้กับศัตรู ถ้าจะเปรียบก็คงจะไม่ต่างอะไรกับการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ที่คุณต้องนิ่งเข้าไว้ เพื่อไม่ให้คนในสงสัยว่ามีไพ่อะไรอยู่ในมือของคุณ

ที่มา http://jcareer.co.th/th/05/
เรียบเรียงข้อมูลโดยmanman

รายการบล็อกของฉัน