Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ความหมายคำว่าFreedom.ในทัศนะต่างๆ.

freedom n.
ความเป็นอิสระ Syn. independence , liberty Related. เสรีภาพ , อิสรภาพ
Thai-English: NECTEC's Lexitron Dictionary
ไทย n. freedom Syn.
ไท Related. independence , liberty , emancipation Def.
ความมีอิสระในตัว, ความไม่เป็นทาส Ant.
ทาส Sample: ชนทุกชาติต้องการเป็น ไทย ทั้งสิ้น ไม่มีใครที่ชอบอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น
อิสรภาพ n. freedom Syn. เสรีภาพ , อิสระ Related. independence , liberation Def.
ความเป็นไทแก่ตัว Sample: แม้เขาจะได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษจนได้ อิสรภาพ แต่ก็ต้องถูกเนรเทศออกนอกประเทศ เสรี n. freedom Syn. อิสระเสรี Related. liberty , independence Def. ที่ทำได้โดยปลอดอุปสรรค,
มีสิทธิที่จะทำจะพูดได้โดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
Sample: คนเราเกิดมามี เสรี และมีอิสระที่จะเลือกหนทางดำเนินชีวิตของตนเอง
เสรีภาพ n. freedom Syn. ความอิสระ Related. liberty Def.
ความมีเสรี Sample: แม้ประชาชนจะมี เสรีภาพ ในการชุมนุมก็ตามแต่จะต้องไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น
โมกข์ n. freedom Syn. ความหลุดพ้น ,นิพพาน Related. independence ,
liberty ความเป็นไท n. freedom Syn. ความเป็นเอกราช , ความเป็นอิสระ Related. liberty Ant. ความเป็นทาส
คำศัพท์ พร้อมความหมาย และตัวอย่างประโยค จาก Voice of America
freedom the condition of being free Sample: Many people in history have died for freedom .

รายละเอียดเพิ่มเติม

ในอารยธรรมตะวันตก

นักคิดในยุคแสงสว่าง ได้ให้เหตุผล ว่ากฎหมายนั้นเป็นสิ่งที่มีอำนาจทั้งในเรื่องมนุษย์ และเรื่องที่เหนือขึ้นไป เช่นเรื่องสรวงสวรรค์ และกฎหมายนั้นเองที่ให้อำนาจกับกษัตริย์ แทนที่จะมองว่าอำนาจของกษัตริย์ทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายได้ มโนทัศน์ที่ว่ากฎหมายนั้นเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล แทนที่จะเป็นตระกูล เริ่มเด่นชัดขึ้น และด้วยแนวคิดนี้ทำให้เกิดความสนใจในเรื่องของเสรีภาพส่วนบุคคล ว่าควรจะเป็นความจริงมูลฐาน ที่ถูกมอบให้โดย "ธรรมชาติ และ พระเจ้า" ซึ่งในรัฐในอุดมคติ เสรีภาพส่วนบุคคลนี้ ควรจะขยายไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้น เราอาจกล่าวได้ว่า ยุคแสงสว่างได้ให้กำเนิดแนวคิด "เสรีภาพ" กล่าวคือ แนวคิดเกี่ยวกับปัจเจกชนอิสระ จะมีความอิสระมากที่สุดภายในสภาพแวดล้อมของรัฐที่ให้ความมั่นคงทางกฎหมาย ถัดจากนั้นแล้ว แนวคิดทางปรัชญาที่ถอนรากถอนโคนยิ่งขึ้นก็ได้แสดงตัวเด่นชัดขึ้นในช่วงของการปฏิวัติฝรั่งเศสและในคริสต์ศตวรรษที่ 19

ช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 19 สำหรับอารยธรรมตะวันตกแล้ว เป็นช่วงของความปั่นป่วนเนื่องจากสงครามและการปฏิวัติ ซึ่งค่อยๆ หล่อหลอมให้เกิดแนวคิดและความเชื่อที่เรียกกันในปัจจุบันว่า "เสรีภาพของปัจเจกชน" ฐานคิดทางปรัชญาของ "เสรีภาพ" คือแนวคิดเกี่ยวกับสิทธิความเป็นมนุษย์ และมนุษย์นั้นมีคุณค่ามากกว่าที่จะอยู่ในสภาพของความเป็นทาส รวมไปถึงแนวคิดที่ว่ามนุษย์ควรจะเป็นผู้กำหนดและควบคุมชะตาชีวิตของตนเอง แนวคิดทางปรัชญาเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากมุมมองทางศาสนา แม้ว่าทั้งชาวคริสต์ ชาวยิว และมุสลิม ล้วนแล้วแต่เคยมีการใช้ทาสมาก่อนทั้งสิ้น

ในอารยธรรมตะวันออก

ขงจื้อได้เตือนเกี่ยวกับการมีบทบาทที่มากเกินไปของรัฐบาล ในลักษณะที่คล้ายคลึงกับพัฒนาการของแนวความคิดยุคหลังล็อกของเสรีภาพเชิงลบ เขากล่าวว่ารัฐบาลที่ทำงานด้วยการทำเป็นตัวอย่างและ "การไม่ทำ" นั้น ยิ่งใหญ่กว่ารัฐบาลที่ทำงานด้วยกฎหมายและระเบียบวินัย

ในอารยธรรมตะวันออกกลาง

ในประวัติศาสตร์ของศาสนายูดายได้มีการกล่าวถึงปัจเจกชนที่ยืนขึ้นเพื่อต่อต้านกับอำนาจของรัฐในเวลาที่สำคัญ เช่น โมเสสที่เรียกร้องกับฟาโรห์ของอียิปต์ว่า "ให้คนของเราไป" หรือชาวแมคคาบีที่กบฏต่อการยึดครองของชาวกรีก และชาวซีลอตที่ต่อต้านอาณาจักรโรมัน

นักกฎหมายมุสลิมได้ยืนยันมาเป็นเวลานานว่าแนวทางของกฎหมายที่กำหนดในคัมภีร์อัลกุรอานมีหลักการที่เรียกว่า "การอนุญาต" หรือ อิบาฮา (Ibahah) โดยเฉพาะที่ใช้กับธุรกรรมทางการค้า อิบ ทายมิจจาห์ (Ibn Taymiyyah) กล่าวว่า "ไม่มีการห้าม
[การซื้อขายโดยสมัครใจ] นอกเสียจากจะเป็นสิ่งที่ถูกห้ามไว้โดยพระเจ้าและผู้ส่งพระสารของท่าน" แนวคิดนี้ปรากฏในข้อความสองตอนในอัลกุรอาน (ตอนที่ 4:29 และ 5:1)

แนวคิดทางการเมือง

เสรีนิยม คือแนวคิดทางการเมืองที่ ครอบคลุมถึงอุดมการณ์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่กล่าวว่าหน้าที่ของรัฐบาลคือการปกป้องเสรีภาพส่วนบุคคล โดยทั่วไปแล้ว แนวคิดนี้จะกล่าวถึงสิทธิในการจะปลีกตัวออกจากแนวคิดดั่งเดิม หรืออำนาจที่ถูกสถาปนาเอาไว้ ในทางการเมืองและทางศาสนา

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นไม่ตรงกันอยู่หลายๆ เรื่องเกี่ยวกับแนวคิดเสรีนิยม ความขัดแย้งที่สำคัญที่เริ่มปรากฏขึ้นในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20เกี่ยวข้องกับ เสรีภาพในการแสดงออก กับ เสรีภาพในทางธุรกิจ (สิทธิในการซือ ขาย และมีทรัพย์สินไว้ในครอบครอง) กระแสคิดหนึ่งเสนอว่าแม้ว่าเสรีภาพทั้งสองแบบจะเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ แต่ก็มีความแตกต่างกันในระดับของความสำคัญ เช่น เสรีภาพในการศรัทธาของแทมมี เฟย์ แบคเคอร์นั้น ในแนวคิดนี้จะถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าสิทธิในการขายเครื่องสำอางค์ของเธอ

นักคิดอีกกลุ่มหนึ่งยืนยันว่าเสรีภาพในการแสดงออกกับเสรีภาพในทางธุรกิจ นั้นแตกต่างกันมาก ถึงขั้นที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง และเสรีภาพอย่างหลังต้องถูกลดลงถึงจะทำให้เสรีภาพข้างต้นเพิ่มขึ้นได้ ผู้คนที่เชื่อในมุมมองเช่นนี้ จะไม่จัดให้เสรีภาพที่เขาต่อต้านเป็นเสรีภาพเสียด้วยซ้ำ

แนวคิดกลุ่มที่สาม ซึ่งเป็นแนวคิดที่เป็นที่นิยมในเหล่านักเสรีนิยม เชื่อว่าไม่มีข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างเสรีภาพทั้งสองแบบ กล่าวคือ ทั้งคู่เป็นสิ่งเดียวกัน และจะต้องได้รับการคุ้มครอง (หรือจะถูกกดขี่) ไปพร้อมๆ กัน พวกเขาชี้ว่า ในรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา มีการกล่าวถึง "ชีวิต เสรีภาพ และทรัพย์สิน" สองครั้ง โดยไม่ได้ระบุถึงข้อแตกต่างใดๆ

นักปัจเจกนิยม เช่น มักซ์ สเตอร์เนอร์ เรียกร้องการเคารพอย่างสูงสุดต่อเสรีภาพของปัจเจกชน ในมุมมองที่คล้ายๆ กัน จอห์น เซอร์ซาน กล่าวว่าอารยธรรมทั้งหมด ไม่ใช่แค่รัฐเท่านั้น ที่จะต้องถูกทำลายลงไป เพื่อให้เสรีภาพงอกงาม ในหนังสือ "ความเรียงเกี่ยวกับศีลธรรมและการเมือง" เดวิด ฮูม ยังได้เขียนถึง "เสรีภาพของพลเมือง"

บางคนมองว่าการปกป้องอุดมคติเกี่ยวกับเสรีภาพว่าเป็นนโยบายแนวอนุรักษ์นิยม ทั้งนี้เนื่องจากการปกป้องนี้จะตรงกับแนวคิดเกี่ยวกับเสรีภาพส่วนบุคคล ที่พวกเขามองว่าเป็นรากฐานของแนวคิดอเมริกัน โดยนักคิดแนววิพากษ์บางพวกมองว่าเสรีภาพเป็นแค่เครื่องมือทางอุดมการ

รูปแบบ

* เสรีภาพภายนอก, เสรีภาพทางการเมือง, หรือเสรีภาพส่วนบุคคล คือสภาวะที่ปราศจากการถูกบังคับ, การควบคุม, การห้าม, การข่มขู่, การกดขี่, และอาจรวมถึงความกดดัน ตัวอย่างเสรีภาพภายนอกเช่นการเคารพซึ่งเสรีภาพในทางความคิด เสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพในการนับถือศาสนา, เสรีภาพสื่อ และเสรีภาพในการปรับแต่งลักษณะหรือสภาพภายนอกของตนเอง
* เสรีภาพภายใน คือสภาวะที่สามารถใช้ความคิดตัดสินใจได้ด้วยตัวเองหรือปกครองตนเอง และความสามารถในการมีเจตจำนงเสรีหรือเสรีภาพในการเลือกสิ่งภายนอกต่าง ๆ โดยไม่เกิดความขัดแย้งกับเจตจำนงที่อยู่ภายใน

ข้อมูลจากวิกิพีเดีย
เรียบเรียงข้อมูลใหม่โดยmanman

รายการบล็อกของฉัน